ทำไมคนโง่ถึงอันตรายกว่าที่คิด?
ในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสังคม การเมือง หรือเศรษฐกิจหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบมากที่สุดคือ “ความโง่” ของมนุษย์เราอาจเคยได้ยินวลีที่ว่า “โลกนี้มีคนฉลาดอยู่จำนวนหนึ่ง มีคนเลวอยู่จำนวนหนึ่ง และมีคนโง่อยู่จำนวนหนึ่ง”แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ คนโง่นั้นอันตรายกว่าคนเลวเสียอีก….
ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “ทฤษฎีความโง่เขลา”ซึ่งถูกอธิบายโดยนักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ คาร์โล ซิโปลลา (Carlo M. Cipolla)
ในบทความของเขาเรื่อง The Basic Laws of Human Stupidity ซึ่งนำเสนอแนวคิดที่สามารถอธิบายพฤติกรรมของมนุษย์และผลกระทบของความโง่ที่มีต่อสังคมได้อย่างน่าสนใจ
5 กฎพื้นฐานของความโง่…
ซิโปลลาได้สรุปพฤติกรรมของมนุษย์ออกมาเป็น “กฎแห่งความโง่เขลา”5 ข้อ ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมคนโง่ถึงเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม
1. คนเรามักประเมินจำนวนคนโง่ต่ำกว่าความเป็นจริง
“ไม่มีทางที่คุณจะคาดเดาจำนวนคนโง่ที่แท้จริงในสังคมได้ เพราะพวกเขามีอยู่ทุกที่ และจำนวนของพวกเขามักจะมากกว่าที่เราคิด”
นี่เป็นกฎข้อแรกที่อธิบายว่า คนโง่ไม่ได้มีอยู่เฉพาะในที่ใดที่หนึ่ง หรืออยู่แค่ในบางกลุ่มคน แต่พวกเขากระจายตัวอยู่ทั่วทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน ในระบบการศึกษา หรือแม้แต่ในตำแหน่งผู้นำขององค์กรและประเทศต่าง ๆ
คุณเคยเจอหัวหน้าที่ตัดสินใจแบบไร้เหตุผล ส่งผลให้ทั้งทีมต้องทำงานหนักขึ้นหรือไม่?
คุณเคยเห็นนักการเมืองที่ตัดสินใจทำบางสิ่งที่ส่งผลเสียต่อประชาชนส่วนใหญ่หรือเปล่า?
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนถึงแชร์ข่าวปลอมโดยไม่คิดให้รอบคอบ?
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวอย่างของคนโง่ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเรา
2. ความโง่ไม่เกี่ยวกับระดับการศึกษา
> “คนที่มีปริญญาหรืออยู่ในตำแหน่งสูงก็สามารถเป็นคนโง่ได้ เช่นเดียวกับคนที่ไร้การศึกษา”
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าคนที่มีการศึกษาสูงหรือเป็นผู้นำองค์กรต้องฉลาดเสมอ แต่ความจริงแล้ว คนโง่สามารถอยู่ได้ในทุกระดับของสังคม
มีศาสตราจารย์ที่เก่งเฉพาะด้านแต่ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องง่าย ๆ
มีผู้บริหารที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแต่กลับทำให้บริษัทล้มละลาย
มีนักการเมืองที่พูดจาดูดีแต่ตัดสินใจนโยบายที่ส่งผลเสียระยะยาว
3. คนโง่สร้างความเสียหายให้ผู้อื่นโดยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
“คนโง่เป็นอันตราย เพราะพวกเขาทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้อะไร”
นี่คือความแตกต่างระหว่าง “คนโง่” กับ “คนเลว”
คนเลว ทำเรื่องแย่ ๆ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
คนโง่ ทำเรื่องแย่ ๆ โดยไม่มีใครได้ประโยชน์ แม้แต่ตัวเขาเอง
คนขับรถปาดหน้ากลางถนนโดยไม่มีเหตุผล ทำให้การจราจรติดขัด
พนักงานที่ทำงานผิดพลาดจนบริษัทเสียเงิน แต่ยังคิดว่าตัวเองทำถูก
คนที่เผาป่าโดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
4. คนโง่เป็นอันตรายมากกว่าคนเลว
“เราอาจรับมือกับคนเลวได้ เพราะพวกเขามีเหตุผล แต่เราไม่สามารถรับมือกับคนโง่ได้ เพราะพวกเขาไร้เหตุผล”
คนเลวมักทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ดังนั้นเรายังพอคาดเดาการกระทำของพวกเขาได้ แต่คนโง่นั้นคาดเดาไม่ได้ พวกเขาอาจทำสิ่งที่ไม่มีเหตุผล สร้างหายนะโดยไม่รู้ตัว และทำให้สังคมเสียหายอย่างมหาศาล
ผู้บริหารที่ตัดสินใจผิดซ้ำ ๆ จนทำให้บริษัทล้มละลาย
นักการเมืองที่ออกนโยบายผิดพลาดจนประชาชนเดือดร้อน
คนที่แพร่ข่าวปลอมทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง
5. คนโง่จะทำให้สังคมแย่ลงเสมอ
“เมื่อใดที่คนโง่มีอำนาจมากขึ้น สังคมจะตกต่ำลง”
กฎข้อนี้อธิบายว่า หากคนโง่มีจำนวนมากขึ้นในตำแหน่งสำคัญของสังคม ผลลัพธ์ที่ตามมาคือความล้มเหลวขององค์กร ประเทศ หรือแม้แต่ระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ
อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีตที่ล่มสลาย เพราะผู้นำตัดสินใจผิดพลาด
บริษัทที่เจ๊งเพราะการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ประเทศที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจเพราะการบริหารที่ขาดวิสัยทัศน์
จะรับมือกับความโง่อย่างไร?
1. ตระหนักว่าคนโง่มีอยู่จริง
อย่าประเมินจำนวนคนโง่ต่ำเกินไปอย่าคาดหวังว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลง
2. หลีกเลี่ยงการปะทะโดยไม่จำเป็น
คนโง่ไม่มีเหตุผล การถกเถียงกับพวกเขามักไม่ได้ผล ควรเลือกวิธีรับมือที่ทำให้ตัวเองเสียเวลาน้อยที่สุด
3. ลดอำนาจของคนโง่
อย่าสนับสนุนคนโง่ให้มีอำนาจใช้ความรู้และเหตุผลในการเลือกผู้นำและการตัดสินใจ
4. เพิ่มจำนวนคนฉลาดและมีคุณธรรม
ส่งเสริมการศึกษาและการคิดวิเคราะห์ปลูกฝังวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับเหตุผลและความรู้
บทสรุป
“ทฤษฎีความโง่เขลา” ของซิโปลลาทำให้เราเห็นว่า ความโง่เป็นภัยที่ร้ายแรงที่สุดของสังคม มันทำให้เกิดปัญหาที่ไม่ควรเกิด และยิ่งมีคนโง่อยู่ในตำแหน่งสำคัญมากเท่าไร สังคมก็จะยิ่งเสื่อมถอยมากขึ้น
สุดท้ายแล้ว หน้าที่ของเราคือทำให้ตัวเองไม่ตกอยู่ในกลุ่มคนโง่ และช่วยกันลดอิทธิพลของความโง่ในสังคม เพราะนี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้โลกดีขึ้นได้จริง ๆ….