วิธีการเอาชนะในการโต้เถียง

ในชีวิตของเราทุกๆวัน ล้วนต้องพบเจอกับผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในที่ทำงานแต่ละคนก็มีนิสัยแตกต่างกันและที่สำคัญหากเกิดความเห็นไม่ลงรอยกันในสถานการณ์ต่างๆคุณจะตัดสินใจยังไงเพื่อให้ชนะในการโต้เถียง

มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจจากเดลคาร์เนกี้เดลคาร์เนกี้เขาเป็นนักโต้วาทีที่มีชื่อเสียงเป็นอาจารย์สอนการพูดในที่ชุมนุมและเป็นนักเขียนหนังสือขายดีระดับตำนานหลายเล่ม แม้กระทั้งนักลงทุนระดับตำนานของโลกอย่างวอร์เรนบัฟเฟตต์ก็ยังเป็นลูกศิษย์ของเขา

ครั้งหนึ่งเดลคาร์เนกี้ ถูกเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยง เพื่อแสดงความยินดีกับวีรบุรุษที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศ

เจ้าของงานเลี้ยงกำลังเล่าเรื่องอย่างสนุกสนานกับแขกที่รายล้อมกัน เดลล์คาร์เนกี้ก็ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย เรื่องที่เจ้าของงานกำลังเล่าอยู่นั้นมีคำพูดโบราณคำหนึ่งที่น่าสนใจเข้าอ้างว่าเป็นประโยคที่มาจากคัมภีร์ไบเบิล แต่เดลคาร์เนกี้รู้ว่ามันไม่ใช่แท้ที่จริงแล้ว คำพูดนี้มันมาจากงานเขียนของเชกสเปียร์ หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวคุณเอง คุณจะทำอย่างไรกัน

เดลคาร์เนกี้พยายามที่จะบอกถึงข้อผิดพลาดในประเด็นนั้นว่า

คำพูดนี้มาจากงานของเชกสเปียร์ แต่เจ้าของงานเลี้ยงก็ไม่ยอมรับและเถียงกลับว่า“มันมาจากคัมภีร์ไบเบิลอย่างแน่นอน” เขาจึงหันไปหาเจมอนผู้เป็นเพื่อนของเขาที่กำลังฟังอยู่ เพื่อนคนนี้เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสือเชกสเปียร์ชนิดที่ว่าอ่านจนจำได้ทุกบรรทัดและเดลคาร์เนกี้จึงกล่าวว่า งั้นให้คุณเจมอนตัดสินว่าใครผิดใครถูกแล้วกันครับ

ฝ่ายเจมอน เพื่อนของเดลคาร์เนกี้ ก็เตะสะกิดขาเขาเบาๆแล้วตอบว่า คุณเดล คุณนะผิดแล้ว”คนนั้นเขาพูดถูกแล้วหละ คำพูดพวกนั้นมันมาจากคัมภีร์ไบเบิลจริงๆ”

หลังจากจบงานเลี้ยง เดลคาร์เนกี้จึงถามเพื่อนของเขาว่า…นี่ผมเข้าใจผิดจริงๆเหรอ เพราะในใจของเดล คิดว่าจำได้แม่นไม่มีทางผิดแน่นอน คำพูดเหล่านั้นมันไม่ได้มาจากคัมภีร์ไบเบิลเจมอนยิ้มและตอบเดลคาร์เนกี้ว่า

จริงๆแล้วคำพูดพวกนั้นนะ มันมาจากหนังสือของเชกสเปียร์เป็นประโยคจากบทที่ 5 บรรทัดที่ 2 ของแฮมเลตเจมอนจึงได้พูดประโยคที่ตราตรึงในใจของเดลคาร์เนกี้และจดจำจนวันตายคือ

คุณควรรู้ไว้นะเดลว่าเราเป็นแขกในงานของเขา ทำไมคุณต้องไปบอกว่าเขาผิดตรงไหนถูกตรงไหน คุณคิดว่าครอบครัวเขาเพื่อนๆของเขาจะรู้สึกดีกับคุณอย่างงั้นหรือ ถ้าหากคุณเป็นฝ่ายถูกหรือผิดแล้วจะได้อะไร

ทำไมคุณไม่ไว้หน้าเขาหน่อยละ เขาไม่ได้ขอให้คุณแสดงความคิดเห็น แล้วทำไมคุณต้องไปทะเลาะกับเขาด้วย คุณเดลเราไม่ควรมีปัญหากับคนอื่น เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องนะ

สิ่งที่เจมอนบอกแก่เดลคาร์เนกี้ มันทำให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าชายผู้นี้จะลาจากโลกไปแล้ว เขาก็ยังจดจำคำพูดนี้ได้เสมอ เพราะตลอดชีวิตของเดลคาร์เนกี้ เขาเป็นนักโต้วาที แข่งขันการโต้วาทีและได้รับรางวัลมามากมาย แต่กลับไม่เขาใจถึงผลลัพธ์หลังจากโต้เถียงเสร็จเอาเสียเลยวิธีที่ชนะในการโต้เถียงคือ การหนีห่างจากมันซะ และไม่ต้องโต้เถียงต่อปากต่อคำให้เสียเวลา

ขนาดคุณเจอเสือคุณยังต้องหนีเลย เพราะมันไม่คุ้มกับการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อฆ่าเสือด้วยตัวเองถึงคุณจะชนะในการโต้เถียงคุณก็อาจเสียอะไรบางอย่างก็เพราะว่าคุณไปจู่โจมทำลายความรู้สึกของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง….ถึงคุณจะพิสูจน์ได้ว่าเขาผิดแล้วยังไงหละ

มันก็ไม่ต่างกับการที่คุณได้สร้างศัตรูเอาไว้แล้วความรู้สึกดีๆที่เขามีให้คุณอาจจะหมดสิ้นไปและไม่อยากเป็นเพื่อนคุณอีก แม้ว่าครั้งนี้เขาจะแพ้แต่แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องแก้แค้นกลับในสักวันจากคนที่เคยเป็นมิตร อาจกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัว

หัวใจเรื่องนี้ก็คือคุณจะต้องดูจังหวะสถานการณ์ หากเป็นสัพเพเหระทั่วไป.จะถูกจะผิดก็ไม่ได้ทำให้ใครตายหรือเสียหาย คุณก็ไม่ต้องไปจริงจังไปทำให้เขาหน้าแตก ขนาดสร้างศัตรูขึ้นมาเพราะถ้าคุณทำแบบนั้นจริง ถือว่าคุณมีความสามารถมากในการเปลี่ยนมิตรให้กลายเป็นศัตรู

ยิ่งถ้าคุณต้องการชนะทุกครั้งโดยที่คุณเองก็พยายามอธิบายเหตุผลต่างๆนาๆและอีกฝ่ายก็อธิบายกลับมาเรื่อยๆถึงฝ่ายตรงข้ามจะหยุดเถียงคุณคุณคิดหรือว่าเขาจะเชื่อในสิ่งที่คุณบอกเขา ไม่เลย

จริงๆแล้วเขาสามารถคิดหาสิ่งที่จะมาหักล้างได้อยู่แล้วถ้าคนจะเถียงกัน

คำว่าที่เขียนว่าชนะในบางสถานการณ์ มันอาจมีความหมายว่า คุณแพ้อย่างราบคาบก็เป็นได้

คุณสามารถรับชมทำอย่างไรให้สร้างมิตร และเป็นผู้ชนะในการโต้เถียงที่แท้จริง ในรูปแบบ Video ได้ด้านล่าง