ระหว่างคนที่รู้จักการลงทุนกับคนที่ไม่รู้จักการลงทุนเลย
ถ้าทั้งสองมีรายได้เริ่มต้นในการทำงานเท่ากัน เมื่อเวลาผ่านไป ความมั่งคั่งของทั้งคู่อาจต่างกันมากกว่า 10 เท่า
ถ้าหากคุณต้องการที่จะเกษียณตัวเองจากการทำงานให้เร็วกว่าคนอื่น และหลังจากการเกษียณแล้วคุณต้องการที่จะมีเงินไหลเข้ากระเป๋าของคุณโดยไม่ต้องไปทำงาน มีวิธีเดียวคือ การลงทุน ตั้งแต่ตอนนี้
หลายคนอยากจะเริ่มทำการลงทุน แต่ติดปัญหาเดียว ก็คือไม่รู้จะเริ่มยังไง
แล้วต้องเริ่มด้วยเงินเท่าไหร่ดี เริ่มจากอะไร
วันนี้ 9richer มีคำตอบ
>> ขั้นตอนตามนี้เลย
1 กำหนดเป้าหมายในการลงทุน
2. มีหลักการของตัวเอง
3. เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน
4. เปิดบัญชีกับโบรคเกอร์/ซื้อกองทุน
5. หาหนังสือการลงทุนดีๆ มาอ่าน และศึกษาการลงทุนให้มากๆ
>> 1. กำหนดเป้าหมายในการลงทุน
ก่อนการลงทุนคุณจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนก่อน จะลงทุนเพื่อการเกษียณด้วยการมีเงินใช้เท่าใดหลังจากนั้นโดยไม่ต้องทำงาน
ถ้าคุณสร้างพอร์ตการลงทุนที่สามารถผลิตกระแสเงินสดให้คุณได้ จากเงินปันผล ซึ่งถ้ามันเพียงพอและครอบคลุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ คุณก็ไม่จำเป็นที่ต้องทำงานอีกต่อไป
หากคุณอยากไปถึงเป้าหมายให้เร็วๆ ก็ต้องจัดสรรเงินเดือนทุกๆเดือนมาลงทุน เช่น คุณมีเงินเดือน 30,000 บาท ก็อาจแบ่งมาไว้ลงทุน 5,000-10,000 บาท เพราะการลงทุน หากคุณมี เวลา+เงินลงทุน+ผลตอบแทน ยิ่งมากยิ่งจะทำให้ไปสู่เป้าหมายได้ไวเท่านั้น
>> 2. มีหลักการลงทุนของตัวเอง
หลักการลงทุนของคุณก็ต้องชัดเจน ไม่ควรเปลี่ยนไปมา ถ้าคนที่ลงทุนในหุ้น หากเลือกหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือแบบห่านทองคำลงทุนเพื่อเก็บกินที่เงินปันผลที่เปรียบกับ ไข่ทองคำ
แต่เมื่อมีคนมาบอกว่า การลงทุนสายเทคนิคได้เงินไวกว่า คุณก็เปลี่ยนไปพอทำไม่สำเร็จก็เปลี่ยนมาแนวเกร็งกำไรอีก แบบนี้ เขาเรียกว่าแมงเม่าครับ หมายถึงคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน เพราะเราต้องยึดหลักการลงทุนในแบบที่เหมาะกับตัวเรา
โดยการลงทุนแบบเน้นคุณค่า และการลงทุนแบบห่านทองคำเหมาะกับการลงทุน เพื่อการเป็นอิสรภาพทางการเงินมากกว่าแบบเกร็งกำไรแน่นอน เพราะไม่ได้พึ่งพาดวง และโชค แต่ต้องใช้ความสามารถในการศึกษาวิเคราะห์ มองอนาคต ประเมินมูลค่า กิจการต่างๆ อย่างเข้าใจ ว่าคุ้มในการเข้าลงทุนหรือไม่
>>3. เลือกสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน
ในโลกนี้มีการลงทุนที่ สามารถใช้เงินเริ่มต้นหลักร้อยหลักพันได้ นั่นก็คือ หุ้น และกองทุนรวม ส่วนสินทรัพย์อื่น อาจต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล โดยปกติแล้วสินทรัพย์จะมีการแบ่งออกประมาณ 5 ประเภทหลักๆ
1. เงินฝากธนาคาร ->ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนน้อยมากๆหรือแทบไม่มี 0.5-1.5 % ต่อปี
2. พันธบัตร -> ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ 1-3% ต่อปี
3. ทองคำ -> ความเสี่ยงปานกลาง ผลตอบแทนปันผลไม่มี(มีแค่ส่วนต่างราคาขึ้นลง)
4. หุ้น -> ความเสี่ยงสูง ผลตอนแทนสูง โดยเฉลี่ยในอดีตย้อนหลังปีละ 12%
5. อสังหาริมทรัพย์ ->ความเสี่ยงปานกลาง ผลตอบแทนปานกลาง
ผมแนะนำว่า เลือกลงทุนในหุ้นหรือ กองทุนรวม ก็ได้เพราะเริ่มด้วยเงินไม่มากก็ได้ และระหว่างทางก็ค่อยๆศึกษาไปด้วย
หากคุณสนใจศึกษาธุรกิจหรือชอบอ่านข้อมูลบริษัทต่างๆ คุณก็สามารถลงทุนเองได้ หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มีหลายบริษัท หลายอุตสาหกรรม แต่ก็มีความเสี่ยงแตกต่างกันไป
ถ้าหากคุณไม่ชอบติดตามข้อมูล คุณก็เลือกลงทุนในกองทุนรวมหุ้นก็ได้ เพราะจะมีผู้จัดการกองทุนเขาดูแลให้อยู่แล้ว
>> 4. เปิดบัญชีกับโบรคเกอร์/ซื้อกองทุน
เมื่อมีเป้าหมายหลักการลงทุนและเลือกสินทรัพย์สำหรับการลงทุนแล้ว การจะลงทุนจริงได้ต้องมีการเปิดบัญชีกับโบรคเกอร์
สำหรับการลงทุนในหุ้น
ผมแนะนำลองใช้ หลักทรัพย์บัวหลวง และหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ หรือหากเปิดกับโบรคอื่นๆก็แล้วแต่คุณเลย เพราะสามารถเปิดแบบออนไลน์ได้ หรือติดต่อที่ธนาคารนั้นๆแล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่ามาเปิดพอร์ตหุ้น เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
สำหรับการลงทุนผ่านกองทุนรวม
ตอนนี้เท่าที่ผมเห็นแบบง่ายๆ ใครมีบัญชีเงินฝากของไทยพาณิชย์ ก็โหลดแอพของธนาคารมาใช้ คุณก็สามารถซื้อกองทุนรวมได้แล้ว มีหลากหลายกองทุนให้เลือกลงทุน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรนะ แค่บอกวิธีที่ง่ายที่สุด จะเปิดที่ธนาคารอื่นๆก็ได้เช่นกัน
เริ่มการลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยๆก่อนที่จะไปทุ่มสุดตัวในระหว่าง 3 ปี แรก เพื่อเป็นการศึกษาให้เข้าใจจริงๆ แบบลึกซึ้ง
>> 5. หาหนังสือการลงทุนดีๆ มาอ่าน และศึกษาการลงทุนให้มากๆ
ขั้นตอนสุดท้าย คุณต้องศึกษาการลงทุนอย่างจริงจัง โดยหาหนังสือเกี่ยวกับการเลือกหุ้นแบบเน้นคุณค่า หรือแบบมองธุรกิจ เพราะเป้าหมายของเราคือ ต้องการลงทุนเพื่อเกษียณโดยไม่ต้องทำงาน เพราะถ้าเราไปเลือกหนังสือ สอนลงทุนแบบเกร็งกำไร คุณก็จะต้องคอยหาหุ้นอยู่เสมอ มันก็ไม่ได้เรียกว่า เกษียณนนะสิ จริงไหม ถ้าเป้าหมายคือการเป็นอิสรภาพ
ที่ให้เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพราะว่า คุณต้องได้ลองลงทุนจริง และก็ศึกษาไปด้วยถึงจะเข้าใจได้เร็ว รู้จักการล้มเหลว และสำเร็จไปพร้อมๆกัน แต่จำไว้ว่า ช่วงใหม่ๆไม่ควรทุ่มเงินลงเยอะใช้เงินส่วนน้อยไปก่อนเก็บเงินไว้ลงเต็มที่ตอนที่คุณมั่นใจ ว่าตัวเองมีความรู้มาก เพราะบทเรียนที่ดีที่สุดคือ เรียนรู้จากการทำจริง ลงจริงได้จริง เจ็บจริง หมั่นเปิด youtube เกี่ยวกับการสัมมนาหุ้นต่างๆเพื่อหาความรู้ที่หลากหลาย
เมื่อเราศึกษาการลงทุนจนเข้าใจหลักการวิเคราะห์หุ้นและ จิตวิทยาการลงทุนแล้ว กล้าถือหุ้นแบบสบายใจได้ หลังจากนั้นคุณก็แทบไม่ต้องทำอะไรอีกเลย รอคอยการเติบโตของพอร์ตคุณ หรือรอรับไข่ทองคำได้เรื่อยๆ หลังจากคุณไม่ทำงานแล้ว โดยเน้นไปที่เงินปันผล และคอยปรับพอร์ตให้เหมาะสมตามความรู้ที่คุณได้ศึกษา
หวังว่าจะเป็นแนวทางให้คุณได้เริ่มต้นศึกษาการลงทุนอย่างจริงจัง
โปรดติดตามความรู้ในการลงทุนแบบเชิงลึกในตอนต่อๆไป