ROA หรือ Return on Asset เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้วัด ประสิทธิภาพในการทำกำไร ของบริษัท โดยคำนวณจาก กำไรสุทธิ หารด้วย สินทรัพย์รวม
ค่า ROA ที่สูง บ่งบอกว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่ สร้างกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้ ROA ในการเลือกหุ้นลงทุน สามารถทำได้ดังนี้
1. เปรียบเทียบ ROA ของบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน
- เลือกบริษัทที่มี ROA สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
2. เปรียบเทียบ ROA ของบริษัทในช่วงเวลาต่างๆ
- เลือกบริษัทที่มี ROA เติบโตอย่างสม่ำเสมอ
3. เปรียบเทียบ ROA กับ ROE
- เลือกบริษัทที่มี ROA และ ROE สูง
อย่างไรก็ตาม การใช้ ROA เพียงตัวเดียว อาจไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจลงทุน
นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย
- งบการเงิน
- อัตราส่วนทางการเงิน
- ปัจจัยเชิงคุณภาพ
ตัวอย่าง
บริษัท A มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1,000 ล้านบาท
ROA ของบริษัท A = 100 / 1,000 = 0.1 หรือ 10%
หมายความว่า บริษัท A สามารถใช้สินทรัพย์ 100 บาท สร้างกำไรได้ 10 บาท
นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบ ROA ของบริษัท A กับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
หรือเปรียบเทียบ ROA ของบริษัท A ในช่วงเวลาต่างๆ
เพื่อคัดกรองหุ้นที่มีศักยภาพ
ข้อควรระวัง
- ค่า ROA ของบริษัทอาจถูกบิดเบือน จากปัจจัยต่างๆ เช่น นโยบายการบัญชี วิธีการวัดมูลค่าสินทรัพย์
- บริษัทที่มี ROA สูง อาจมีหนี้สินสูง
ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจลงทุน
แหล่งข้อมูล
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: https://www.setinvestnow.com/
- กลต. รู้ทันลงทุน: https://www.sec.or.th/TH/Pages/Home.aspx
- หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ: https://www.thansettakij.com/